เหตุการณ์ดราม่าระหว่างนักร้องชื่อดัง เจ๋ง บิ๊กแอส และนักร้องหนุ่ม ปอน นิพนธ์ กลายเป็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์ โดยเริ่มจากประเด็นที่ เจ๋ง บิ๊กแอส ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงการใช้ยาเสพติดในวงการบันเทิง หลังจากที่มีข่าวเกี่ยวกับการจับกุม แซ็ก นักร้องนำวง I-Zax ในคดียาเสพติด เจ๋งได้แสดงความคิดเห็นว่าเขาไม่เห็นด้วยกับการใช้ยาเสพติดในวงการดนตรี โดยมองว่าเป็นการทำร้ายตัวเองและไม่ให้เกียรติแฟนเพลง ต่อมา ปอน นิพนธ์ นักร้องที่มีเพลง "ไทม์แมชชีน" เป็นที่รู้จัก ได้โพสต์ข้อความที่ถูกมองว่าเป็นการแซะ เจ๋ง บิ๊กแอส แม้จะไม่เอ่ยชื่อ แต่ผู้ติดตามและแฟนเพลงสามารถตีความได้ว่าเป็นการโจมตีถึงการแสดงความคิดเห็นของเจ๋งในเรื่องยาเสพติด ซึ่งโพสต์ของปอนทำให้เกิดการวิจารณ์อย่างรุนแรงจากทั้งแฟนคลับของเจ๋งและชาวเน็ตจำนวนมาก
ข่าวบันเทิงไทยรัฐ ดราม่าการโต้ตอบและการไลฟ์ขอโทษของปอน
ปอนได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก โดยกล่าวว่า เจ๋ง บิ๊กแอส เป็นแค่ศิลปินที่มาทำงานแทนวงดนตรีที่คนอื่นสร้างมา และยังกล่าวว่าตัวเองยอมใช้ยาเสพติดในการแต่งเพลง ดีกว่าไม่ใช้แล้วทำตัว "ทรงใหญ่" โดยพูดถึงการเคารพไอดอลอย่าง เสก โลโซ อีกด้วย ข้อความดังกล่าวทำให้เกิดการวิจารณ์อย่างหนักจากแฟนๆ ของเจ๋งและนักดนตรีหลายๆ คน จนในที่สุดปอนต้องลบโพสต์ดังกล่าวและปิดบัญชีเฟซบุ๊ก หลังจากผ่านไปหนึ่งวัน ปอนกลับมาเปิดเฟซบุ๊กอีกครั้งและทำการไลฟ์ขอโทษอย่างเป็นทางการ โดยเขายอมรับว่าโพสต์ดังกล่าวมีคำพูดที่ไม่ดี และไม่ได้ตั้งใจที่จะสนับสนุนการใช้ยาเสพติดในการทำเพลง แต่เขาก็ยอมรับว่าการใช้คำพูดแบบนั้นเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด และขอโทษต่อทุกคนที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดและทำให้วงการดนตรีได้รับผลกระทบ
การขอโทษและการยอมรับความผิด
ในระหว่างการไลฟ์ ปอนกล่าวว่าเขาไม่คิดว่าจะทำให้คนมองว่าเขากำลังสนับสนุนการใช้ยาเสพติด และเขารู้สึกผิดที่ทำให้ผู้ที่ติดตามเขารู้สึกเสียใจและผิดหวัง ในการไลฟ์ เขายังได้แสดงผลการตรวจสารเสพติด เพื่อยืนยันว่าเขาไม่ได้ใช้ยาเสพติดตามที่ถูกพูดถึงในโพสต์ ก่อนจะขอโทษต่อแฟนๆ และบุคคลที่เกี่ยวข้องที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ ปอนยอมรับว่าเขาควรคิดให้มากกว่านี้ก่อนที่จะโพสต์ข้อความใดๆ ลงในโซเชียลมีเดีย เพราะคำพูดดังกล่าวได้สร้างความเข้าใจผิดให้กับผู้ติดตามและทำให้ความสัมพันธ์ในวงการดนตรีเสียหาย โดยเขาระบุว่าเขาจะระมัดระวังในการใช้คำพูดในอนาคตและจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก
ผลกระทบจากโพสต์ของปอนและการรับผิดชอบ
หลังจากที่ปอนได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กและถูกวิจารณ์อย่างหนักจากสังคมออนไลน์ ทำให้เขาต้องตัดสินใจปิดเฟซบุ๊กและใช้เวลาสักระยะหนึ่งในการจัดการกับสถานการณ์ ก่อนที่จะกลับมาเปิดเฟซบุ๊กอีกครั้งและทำการไลฟ์ขอโทษในที่สุด การขอโทษครั้งนี้ถือเป็นการยอมรับในความผิดพลาดของเขาและเป็นการขอคำขอโทษต่อสาธารณชนที่ได้รับผลกระทบจากคำพูดของเขา
การที่ปอนยอมรับว่าคำพูดของเขาผิดพลาดและทำให้ผู้ติดตามรู้สึกผิดหวัง เป็นการแสดงถึงความรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น และเป็นการสำนึกถึงผลกระทบที่เกิดจากการโพสต์ในโลกออนไลน์ ซึ่งเป็นสิ่งที่คนในวงการบันเทิงควรคำนึงถึงมากขึ้น
ความคิดและทัศนคติของ เจ๋ง บิ๊กแอส
ในขณะที่ปอนถูกวิจารณ์อย่างหนัก เจ๋ง บิ๊กแอสเองก็ได้ออกมาชี้แจงผ่านทางเฟซบุ๊กว่าเขาไม่ได้พูดถึงใครโดยเฉพาะในการสัมภาษณ์เกี่ยวกับการใช้ยาเสพติด เขากล่าวว่าเขาไม่สนับสนุนการใช้ยาเสพติดในการทำงานศิลปะและเชื่อว่าการใช้ยาไม่ได้ทำให้เกิดความสร้างสรรค์ในงานดนตรี เขายังยืนยันว่าเขาไม่ได้มีเจตนาจะพาดพิงถึงใครในวงการบันเทิง แต่เนื่องจากการพูดถึงยาเสพติดในวงการดนตรีเป็นเรื่องที่สำคัญ เขาจึงต้องออกมาแสดงความคิดเห็น เจ๋งยังเสริมว่าในฐานะที่เขาเป็นศิลปิน เขามีหน้าที่ที่จะต้องแสดงตัวอย่างที่ดีให้กับแฟนเพลง และการใช้ยาเสพติดไม่ควรจะเป็นทางเลือกสำหรับใครที่ทำงานในวงการดนตรี เขายืนยันว่าเขาไม่ได้พูดถึงบุคคลใดเป็นพิเศษและไม่เคยมีเจตนาทำร้ายใคร
ข่าวบันเทิงไทยรัฐ สรุปบทเรียนจากเหตุการณ์นี้
เหตุการณ์นี้ถือเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับทั้งปอนและเจ๋ง รวมถึงคนในวงการบันเทิงทั้งหมดในการใช้คำพูดในโลกออนไลน์ การโพสต์ข้อความในโซเชียลมีเดียสามารถส่งผลกระทบใหญ่หลวงได้ และการแสดงความคิดเห็นในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดหรือประเด็นที่มีความละเอียดอ่อนต้องระมัดระวังอย่างยิ่ง สำหรับแฟนๆ ของทั้งสองฝ่าย การรับรู้และทำความเข้าใจในเจตนาของศิลปินนั้นเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะเมื่อเรื่องดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการใช้ยาเสพติด ซึ่งเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อทั้งตัวบุคคลและวงการดนตรี การที่ทั้งสองฝ่ายได้ขอโทษและอธิบายเหตุผลของตนเองจึงเป็นขั้นตอนที่สำคัญในการแก้ไขสถานการณ์และสร้างความเข้าใจระหว่างกัน
